กว่า 30 ปีแห่งความสำเร็จ! "SUPARNO JEWELRY" พลิกโฉมวงการจิวเวลรี่ไทย ปั้นแบรนด์เครื่องประดับให้เข้าถึงง่าย พร้อมบุกตลาดโลก
กว่า 30 ปีแห่งการเติบโตอย่างมั่นคงในวงการจิวเวลรี่ไทย "SUPARNO JEWELRY" ยืนหยัดด้วยแนวคิดที่แตกต่าง นำเสนอเครื่องประดับในฐานะ เสียงสะท้อนตัวตน ของผู้สวมใส่ ภายใต้ปรัชญา "THE VOICE OF JEWELRY" ที่เน้นความเข้าถึงง่าย คุ้มค่า และเปี่ยมด้วยความหมาย พร้อมเดินหน้าขยายตลาด OEM ซึ่งเติบโตสูงถึง 200-300% และต่อยอดด้วยการสร้างแบรนด์ของตัวเอง เพื่อเพิ่มมูลค่าในระยะยาว ล่าสุดเตรียมเปิดตัวบนเวทีระดับภูมิภาคในงาน "Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2025 (JGAB 2025)" เพื่อเชื่อมโยงกับคู่ค้าระดับพรีเมียมจากทั่วโลก
นายชยันกิติภัทร ยงค์พีระกุล กรรมการผู้จัดการ SUPARNO JEWELRY เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่า ย้อนกลับไปกว่า 30 ปี SUPARNO เริ่มต้นจากกิจการค้าพลอยในครอบครัว ซึ่งเป็นยุคเฟื่องฟูของทับทิมและไพลิน ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการต่อยอดและเพิ่มคุณค่าให้กับอัญมณีไทย จึงเกิดแนวคิดในการพัฒนาเป็นเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตนผู้สวมใส่ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น
แรงบันดาลใจของแบรนด์ซ่อนอยู่ในชื่อ SUPARNO ซึ่งนำมาจากชื่อคุณแม่ สุพร ผสานกับคำว่า SOPRANO จนเกิดเป็นชื่อที่เปี่ยมด้วยความหมายและความผูกพันทางใจ โดยแบรนด์ SUPARNO ไม่ได้ขายเพียงเครื่องประดับ แต่สื่อถึงเสียงที่สะท้อนบุคลิก ความรู้สึก และสไตล์ของผู้สวมใส่อย่างแท้จริง เราต้องการลบภาพจำเดิม ๆ ที่ว่าเครื่องประดับหรูเป็นของคนรวยเท่านั้น แต่ต้องการสร้าง เครื่องประดับที่ทุกคนเข้าถึงได้
อีกหนึ่งหัวใจของ SUPARNO JEWELRY คือการมีโรงงานผลิตของตัวเอง ซึ่งสามารถรองรับการผลิตทั้งในนามแบรนด์และ OEM ได้ครบทุกกลุ่มตลาด ทำให้สามารถควบคุมทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในด้านดีไซน์ คุณภาพ และระยะเวลา ส่งผลให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
"ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เราดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ ใส่ใจในความต้องการของลูกค้า เราอบรมทีมงานให้เน้นการสื่อสารและรับฟังลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเป็นผู้กำหนดรูปแบบและงบประมาณ เพราะเราเชื่อว่าเครื่องประดับแต่ละชิ้นควรสะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ และต้องคุ้มค่ากับเงินทุกบาทที่จ่ายไป"
นายชยันกิติภัทร ยงค์พีระกุล กล่าวต่อว่า SUPARNO JEWELRY ผ่านจุดเปลี่ยนสำคัญในช่วงโควิด-19 ซึ่งทำให้เห็นว่าโรงงานจำนวนมากหันมาสร้างแบรนด์ของตัวเอง แต่เนื่องจากต้นทุนการตลาดสูง SUPARNO จึงปรับกลยุทธ์ ลดการโฟกัสแบรนด์ และมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิต OEM รายใหญ่แทน กลายเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ปัจจุบันสัดส่วน OEM คิดเป็น 90% และแบรนด์ของตัวเองอยู่ที่ 10% โดยมีฐานลูกค้า OEM หลักในยุโรปและอเมริกา พร้อมปรับกลยุทธ์ด้านราคาให้สินค้า ดูมีมูลค่าสูงกว่าราคาที่จ่าย
ในด้านการตลาด SUPARNO JEWELRY จะไม่เน้นโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย แต่จะใช้กลยุทธ์ การบอกต่อ (Word of Mouth) เพราะให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ พร้อมเข้าร่วมงานแฟร์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าและเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมเข้าร่วมงาน JGAB 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2326 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเราคาดว่าการร่วมงานครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการบุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
นายชยันกิติภัทร กล่าวปิดท้ายว่า อีกหนึ่งกระแสที่น่าจับตามองคือ Lab-grown Diamond หรือ "เพชรแล็บ" ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มลูกค้าที่มองหาเครื่องประดับดีไซน์เก๋ ราคาจับต้องได้ และเปลี่ยนได้บ่อยตามสไตล์ที่เปลี่ยนไปตามยุค นับเป็นโอกาสสำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเปิดตลาดใหม่ ๆ พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ไทยให้ทัดเทียมระดับโลก