แชร์

"สุขภาพทางเพศ" เรื่องไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม

อัพเดทล่าสุด: 22 ธ.ค. 2023
265 ผู้เข้าชม
"สุขภาพทางเพศ" เรื่องไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม

สุขภาพทางเพศ (Sexual Health) ไม่ใช่แค่เรื่องของ การมีเพศสัมพันธ์หรือโรคติดต่อเพียงอย่างเดียว แต่เป็นทั้งเรื่องของสุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิต ปัจจุบันสังคมเปิดกว้างยอมรับเรื่องทางเพศมากขึ้น การพูดถึงความสัมพันธ์ทางเพศหรือปัญหาสุขภาพทางเพศไม่ใช่เรื่องน่าอาย ในทางกลับกันเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงและวิธีการรับมือมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะปัญหา "การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction, ED)" หรืออาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือที่เรียกกันติดปากว่า "นกเขาไม่ขัน" ที่ก่อปัญหานี้ให้กับผู้ชายทั่วโลกร้อยละ 40-50% ในชายอายุ 40-65 ปีขึ้นไป และจะมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นถ้ามีโรคที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือด เช่น เบาหวาน ความดัน หรือไขมันในเลือดสูง ขณะที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานยิ่งเพิ่มโอกาสอวัยวะเพศไม่แข็งตัวมากถึง 3 เท่า เพราะมีปัญหาเรื่องการไหลเวียนของเลือด

ด้วยเข้าใจว่าปัญหาสุขภาพทางเพศในเพศชายเป็นสิ่งสำคัญ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จึงมีความตั้งใจเปิดศูนย์ "Sexual Health" ภายใต้ Prevention and Wellness Clinic เพื่อให้บริการคำปรึกษาและรักษาโรคสุขภาวะทางเพศในผู้ชายแบบองค์รวมโดยเฉพาะ มุ่งเน้นการดูแลป้องกัน และเสริมสร้างสุขภาวะให้ผู้มารับบริการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการและเทคโนโลยีในการปฏิบัติการทางการแพทย์ที่ทันสมัย

นพ.ปิยะพงศ์ สุวรรณสัญญา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน คลินิกสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟู บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก กล่าวว่า การมีสุขภาพทางเพศที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากเป็นหนึ่งในความสุขที่มาเติมเต็มการใช้ชีวิต โดยเฉพาะชีวิตครอบครัว ยังมีความสำคัญในแง่ของสุขภาพ ทั้งทางกายและด้านจิตใจ เช่น ถ้ามีปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะทำให้ไม่มั่นใจ เกิดความเครียด ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต

ขณะเดียวกันอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรืออวัยวะเพศไม่แข็งตัว ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพทางกาย เกี่ยวกับการไหลเวียนของเส้นเลือด สามารถสืบค้นต่อไปยังปัญหาในจุดอื่นๆ เช่น ปัญหาที่กล้ามเนื้อหัวใจหรือที่เส้นเลือดสมองอุดตัน ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาทางแก้ไขแต่เนิ่นๆ

ปัญหาสุขภาพทางเพศในเพศชายที่พบบ่อยคือ การเสื่อมถอยของร่างกายไปตามกลไกธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้น ฮอร์โมนบางตัวอย่างเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศชาย จะลดน้อยลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หากมีการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ หรือรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายแก่ตัวและเสื่อมเร็วขึ้น การทำงานของส่วนต่างๆ ด้อยลง ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย เชื่อมโยงไปถึงการแข็งตัวของอวัยวะเพศ อารมณ์ทางเพศ อรรถรสของการมีเพศสัมพันธ์ลดลง

นอกจากนี้ การหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation, PE) หรือที่คนทั่วไปมักเรียกกันว่า "ล่มปากอ่าว" เป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว รวมถึงสุขภาพร่างกายโดยรวมเช่นกัน อาจใช้การปรับความเข้าใจและเทคนิคการปรับพฤติกรรม การลดความไวต่อความรู้สึกของอวัยวะเพศ หรือการรับยา ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการประเมินของแพทย์ผู้ชำนาญการ

ถามว่าจำนวนครั้งของการมีเพศสัมพันธ์เป็นหนึ่งในข้อพิจารณาเพื่อเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์หรือไม่?

นพ.ปิยะพงศ์ ไขข้อสงสัยว่า ในความเป็นจริงไม่มีการกำหนดตายตัวว่าในหนึ่งสัปดาห์ควรมีกิจกรรมทางเพศกี่ครั้ง ถ้าไม่กระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันถือว่าไม่ผิดปกติ ขึ้นอยู่กับทัศนคติและประสบการณ์ส่วนบุคคลที่มีมาก่อนหน้าด้วย ประเด็นสำคัญอยู่ที่การปรับจูนเข้าหากันของคู่ชีวิตมากกว่า ถ้าไม่มีปัญหากับชีวิตคู่ ถือว่าปกติและไม่จำเป็นต้องรับการรักษา

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทร่วมในการรักษาอาการเจ็บป่วยของร่างกาย อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศก็เช่นกัน นพ.ปิยะพงศ์ กล่าวว่า ที่บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จะให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นหลัก เนื่องจาก การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ รวมถึงการทำสมาธิ เป็นพื้นฐานสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ การป้องกันการเกิดการเจ็บป่วย การรักษาอาการผิดปกติของร่างกาย รวมทั้งปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว ซึ่งสามารถใช้การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน หรือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา เช่น การรักษาด้วยคลื่นกระแทก หรือช็อคเวฟ (Shock Wave Therapy) ซึ่งเป็นการรักษาโดยใช้คลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอก บนอวัยวะเพศของผู้มีอาการ เพื่อกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยในการไหลเวียนของเลือด ทำให้การขยายตัวของอวัยวะเพศชายค่อย ๆ กลับมามีประสิทธิภาพตามปกติภายใต้จำนวนครั้งที่แนะนำ และการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้ชำนาญการ

ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศก่อน เพราะบางคนแค่ปรับเปลี่ยนหรือได้พูดคุยเปิดใจมากขึ้นอาการก็ดีขึ้นได้ อาการนกเขาไม่ขันเป็นอาการที่พบได้บ่อยและไม่ใช่เรื่องน่าอาย สามารถเกิดขึ้นได้กับคนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 40 การปรับเปลี่ยนทัศนคติสามารถทำให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้นและอาการอาจจะดีขึ้นได้

ทั้งนี้ บุคคลที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ผู้ที่เป็นโรคอ้วน โรคเกี่ยวกับเส้นเลือดต่างๆ โรคเกี่ยวกับความเครียด โรคซึมเศร้า ฯลฯ รวมถึงผู้ที่พักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ โดยมีการทำวิจัยให้อาสาสมัครนอนวันละ 6 ชม.นาน 1 สัปดาห์ พบว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลงอย่างเห็นได้ชัด เทียบเท่ากับผู้ที่อายุมากกว่าถึง 10 ปี และมีโอกาสที่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้

สำหรับการป้องกันเบื้องต้น นพ.ปิยะพงศ์ บอกว่า นอกจากการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มสุราของมึนเมา สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กล่าวคือ

1. นอนหลับวันละ 7-9 ชม. ถ้านอนไม่หลับต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบ เช่น การดื่มกาแฟ เล่นโทรศัพท์หรือกินอาหารก่อนนอน ทำให้หลับไม่ลึก ฯลฯ

2. การกินอาหารควรเลือกกินผักผลไม้มากขึ้น อย่าง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สตรอเบอรี แตงโม กีวี วอลนัต อาหารที่มีอาร์จินีน (Arginine) หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ของทอด อาหารกระป๋อง รวมทั้งอาหารที่ผ่านกระบวนการมากๆ จำพวกไส้กรอก หรืออาหารแปรรูป ทำให้มีการอักเสบในร่างกาย ในเส้นเลือด และความเครียดที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบทำให้ฮอร์โมนลดลง

3. การออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และเพิ่มการเวท (Weight training) อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศและช่วยภูมิคุ้มกันได้ดี นอกจากนี้การทำสมาธิก่อนนอนวันละ 10 นาทียังเป็นอีกวิธีช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกายได้

นพ.ปิยะพงศ์ ยังย้ำปิดท้ายว่า การมีเพศสัมพันธ์ ต้องใส่ใจตัวเองด้วย ต้องใช้ถุงยางอนามัย เช็คเลือด ตรวจดูการติดเชื้อ บีดีเอ็มเอสให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งสภาวะจิตใจและร่างกาย รวมถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว จึงมีการตรวจร่างกาย ตรวจระดับฮอร์โมน วิตามิน และค่าเลือดต่างๆ เพื่อใช้ประเมินการรักษา โดยให้เวลาให้คำแนะนำ อย่างเต็มที่ ข้อมูลทุกอย่างจะเก็บเป็นความลับระหว่างผู้เข้ามารับบริการและแพทย์ เพียงติดต่อมาที่ศูนย์ Sexual Health ภายใต้ Prevention and Wellness Clinic เพื่อรับการประเมินอาการอย่างตรงจุด และการรักษาที่เหมาะสมกับสภาวะร่ายกาย เพราะสุขภาพทางเพศเป็นสิ่งสำคัญต่อตัวคุณและคนที่คุณรัก

BDMS Wellness Clinic มุ่งมั่นพัฒนาและวิจัยเรื่องสุขภาพ เพื่อมอบเป็นของขวัญสุขภาพแก่คนไทยทุกคน เพราะสุขภาพที่ดี คือของขวัญที่ดีที่สุด Live longer, Healthier and Happier
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ไลน์@bdmswellnessclinic or https://lin.ee/rdIDv1A เว็บไซต์ www.bdmswellness.com


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy