JSP ฉลอง 70 ปีแห่งแบรนด์สุภาพโอสถ พร้อมทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยพันธกิจ 3 Best ที่สุดแห่งส่วนผสมที่ดีที่สุด ที่สุดแห่งการพัฒนาสินค้าจากงานวิจัยเชิงลึก และที่สุดแห่งกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานส่งออก โชว์ศักยภาพสมุนไพรตัวท็อปซอฟต์พาวเวอร์ไทย ตั้งเป้ายอดขายปี 2567 รวม 750 ล้านบาท ผ่านกลยุทธ์การใช้พรีเซนเตอร์สร้างการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรก แม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์ ตีตลาดสูงวัย กับผลิตภัณฑ์น้ำมันงาดำรำข้าว ตั้งเป้ายอดขายเดือนละ 250,000 กระปุก ปิดปี 67 ทะลุ 3,000,000 ล้านกระปุก ส่งต่อความยั่งยืนสู่สังคมผ่าน 5 ธุรกิจ โรงงานผลิตยาคุณภาพ โรงงานผลิตน้ำยาฟอกไต บริษัทด้านการวิจัยและพัฒนา โรงงานผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริม และคลินิกแพทย์แผนไทย
นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด JSP กล่าวว่า จากเป้าหมายยอดขายปี 2567 ที่ 750 ล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ไม่ได้ท้าทายจนเกินไป เนื่องจากสัญญาณการเติบโตของสินค้า Own Brand เป็นไปด้วยดี และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะนับจากการะบาดของโควิด 19 ที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการรักษาด้วยธรรมชาติทดแทนการใช้ยาจากเคมี ส่งผลให้ธุรกิจ OEM และ Own Brand ในส่วนของสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตปีละ 17 % โดยสินค้าที่ได้รับการตอบรับสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1) น้ำมันงาดำรำข้าว 2) 4mix oil 3) Fish oil 4) Spirulina และ 5) Altimus
โดยปัจจัยสนับสนุนให้สินค้าเหล่านี้เติบโตอย่างโดดเด่นมาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่
1. มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ให้ความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจไม่แตกต่างจากการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน จึงตอบโจทย์เทรนด์การลดใช้ยาเคมี
2. โครงสร้างสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดเข่า ผิวแห้ง นอนไม่หลับ เป็นต้น
3. ราคาจับต้องได้ง่ายกว่ายาเคมีที่นำเข้าจากต่างประเทศ
ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดของ JSP นั้น ปีนี้เนื่องในโอกาสครบ 70 ปี แบรนด์สุภาพโอสถ JSP จะเริ่มทำการตลาดมากขึ้น ด้วยการใช้พรีเซนเตอร์ เพื่อให้ตลาดรับรู้สินค้าได้กว้างขึ้น โดยปีนี้ได้เปิดตัว "แม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์" เป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของผลิตภัณฑ์ น้ำมันงาดำรำข้าว สุภาพโอสถ เพื่อรุกตลาดผู้สูงอายุ ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การสะท้อนการเป็นผู้ให้บริการที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวยานของ JSP รวมถึงตัวสินค้าน้ำมันงาดำรำข้าว สุภาพโอสถ ก็เป็นสินค้าที่มีสรรพคุณ ดูแลข้อและเข่า จึงเป็นสินค้าตัวแรกของ JSP ที่นำมาเป็นสินค้าเรือธงในปีนี้ เพราะสะท้อนคุณภาพ JSP ที่เข้าถึงได้ง่าย แต่คงสรรพคุณที่หลากหลาย จนเป็นสินค้าที่หนึ่งในใจผู้บริโภคในทุกวันนี้ ยอดขายเดือนละ 250,000 กระปุกต่อเดือน และตั้งเป้ายอดขายปีนี้จำนวน 3,000,000 กระปุก จัดจำหน่ายผ่านพาร์ทเนอร์ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง กว่า 13 ช่อง อาทิ ทีวี ไดเร็ค,ทรู ช้อปปิ้ง, อาร์เอส มอลล์,โอ ช็อปปิ้ง และช่องทาง อี-มาร์เกตเพลส ชั้นนำ
นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) เปิดเผยว่า ปี 2567 เป็นก้าวที่สำคัญของ JSP กับการอยู่คู่สังคมไทยมา 70 ปี นับจากวันแรกที่ก่อตั้งขึ้นในรูปแบบของร้านขายยาแผนโบราณ ในนาม ห้างอั้งง้วนเฮง สุภาพโอสถ
เมื่อปี พ.ศ.2494 จากร้านขายยาเพียง 2 คูหาได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณ ที่ได้มาตรฐาน GMP รวมถึงได้ขยายธุรกิจไปสู่ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคนและสัตว์ รวมถึงต่อยอดไปสู่ธุรกิจด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ทั้ง บริษัทด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) บริษัทผลิตน้ำยาฟอกไต การทำตู้กดยา และคลินิกแพทย์แผนไทย เป็นต้น ปัจจุบัน JSP จึงเป็นผู้ให้บริการที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ
ในโอกาสครบ 70 ปี แบรนด์สุภาพโอสถ JSP จึงได้ตั้งเป้าหมายในการต้องเป็นที่สุด 3 ด้าน หรือ 3 Best ซึ่งจะเป็นพันธกิจสำคัญที่ JSP จะรักษาไว้ซึ่งคุณภาพให้สมกับชื่อเสียงที่สั่งสมมาตลอด 70 ปีคือ
1. The Best Ingredients ทุกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม JSP การันตีส่วนผสมคุณภาพที่ดีที่สุด
2. The Best Research and Development ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม JSP พัฒนาจากงานวิจัยเชิงลึก จากห้องแลปที่ทันสมัยที่สุด ดึงคุณค่าวัตถุดิบไทยให้โดดเด่นอย่างแท้จริง
3. The Best Production Standard ด้วยการผลิตโดยโรงงานคุณภาพมาตรฐาน GMP ของ JSP ที่ได้รับการรองรับจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก สร้างความมั่นใจผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน
จาก 3 พันธกิจดังกล่าวจะทำให้ JSP ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ความยั่งยืนและส่งต่อความยั่งยืนนี้ไปสู่ทุกหน่วยของสังคมผ่านการดำเนินธุรกิจภายใต้ 5 บริษัท ดังนี้
1. JSP ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร โดยมีโครงสร้างรายได้มาจากทั้งสินค้าที่เป็น Own Brand และรายได้จากการรับจ้างผลิต หรือ OEM ปัจจุบันรายได้ทั้ง 2 ด้านมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% และ 60%
2. บริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (GWM) ดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต (A-B Solution) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาสำหรับผู้ป่วยฟอกไต เครื่องฟอกไตเทียม, เข็มต่อสายฟอกเลือด และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเลือด นอกจากนี้ GWM ยังถือหุ้นใน บริษัท วารี เมดิคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจการติดตั้งระบบน้ำ และจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องกรองน้ำและติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์
3.บริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CDIP ประกอบธุรกิจด้านการรับจ้างวิจัยเชิงวิชาการในห้องปฏิบัติการ รับจ้าง ทดสอบและวิเคราะห์ผลทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงจัดงานฝึกอบรมและสัมมนา และส่วนงานให้คำปรึกษา การยื่นขอทุนวิจัยด้านการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้ CDIP ยังได้เข้าลงทุนใน บริษัท เมดิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MEDIS) เจ้าของตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง (24-Hour Medicine Dispenser Platform)
4. บริษัท แคร์ซูติก จำกัด ให้บริการด้านอินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ที่มีทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงรับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคน และสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่ครอบคลุมทั้งสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน เช่น สุนัข และแมว สัตว์เลี้ยงเพื่อการแข็งขันและประกวด เช่น ไก่ชน ม้าแข่ง นกสวยงาม เป็นต้น
5. สุภาพโอสถ สหคลินิก คลินิกรักษาด้วยแพทย์แผนไทย ในกลุ่มผู้ที่มีปัญหาโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน กล้ามเนื้อ ลมในท้อง ปวดตามข้อ ผิวพรรณ และภูมิแพ้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเปิดให้ครบ 10 สาขาภายใน 5 ปี เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้คนทั่วไปได้เข้าถึงและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์สุภาพโอสถ สินค้า Own Brand ของ JSP
สำหรับเป้าหมายธุรกิจปี 2567 JSP คาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท และในอนาคต หากสามารถควบรวมกิจการได้อีกเป้าหมายรายได้อาจจะเพิ่มขึ้นได้มากกว่าปีละ 200 ล้านบาท