แชร์

ครั้งแรก! ของ "โป่ง ปฐมพงษ์" กับเรื่องราวและมิตรภาพตลอดเส้นทางสายดนตรี "Pong 47 ปี Rock Never Dies"

อัพเดทล่าสุด: 23 พ.ค. 2024
94 ผู้เข้าชม
ครั้งแรก! ของ "โป่ง ปฐมพงษ์" กับเรื่องราวและมิตรภาพตลอดเส้นทางสายดนตรี "Pong 47 ปี Rock Never Dies"

"Pong 47 ปี Rock Never Dies" ครั้งแรก! ของโป่ง ปฐมพงษ์ กับเรื่องราวและมิตรภาพบนเส้นทางสายดนตรีตลอด 47 ปี การกลับมารวมตัวของ 6 วง และ 8 มือกีตาร์ระดับพระกาฬ บนเวทีเดียวกันอย่างยิ่งใหญ่

แฟนเพลงและศิลปินขาร็อกตบเท้าชมคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ ของร็อกสตาร์ระดับตำนานเมืองไทย ที่เป็นทั้งนักร้องเจ้าของฉายากระเดือกทองคำ และนักแต่งเพลงฝีมือดีชั้นนำของไทย  "โป่ง-ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์" หรือ โป่ง หินเหล็กไฟ คอนเสิร์ตครั้งแรกกับการกลับมารวมตัวของเพื่อนสมาชิก 6 วง ที่ "โป่ง ปฐมพงศ์" ร่วมก่อตั้งขึ้น ได้แก่ นาอ้อน (Naon), อินเฟอร์โน่(Inferno), โซดา(Soda), ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์(The Olarn Project), หิน เหล็ก ไฟ และเดอะซัน (The Sun) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและมิตรภาพบนเส้นทางสายดนตรีตลอด 47 ปี จากจุดเริ่มต้น จนถึงปัจจุบัน และจะยังเดินทางต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด พร้อมแขกรับเชิญพิเศษที่มีบทบาทสำคัญในแต่ละช่วงชีวิตของ โป่ง ได้แก่ พี่ซัน-มาโนช พุฒตาล, แม่ลิน-มาลินดา เฮอร์แมน เจ้าของเพจ Malinda Herman และ หญิงชรากับหมาน้อย, ขุนทอง อสุนี, และ น้องแองจี้-ฐิติชา สมบัติพิบูลย์ ในคอนเสิร์ต "Pong 47 ปี Rock Never Dies" ที่จัดขึ้น ณ บีซีซี ฮอลล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

โดยบรรยากาศภายในงาน อบอุ่นและอบอวลไปด้วยแฟนเพลงตัวจริงที่มาพร้อมสัญลักษณ์ของชาวร็อก นั่นคือ กางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีดำ พร้อมเหล่าศิลปินร็อกรุ่นเก่ารุ่นใหม่มากมาย อาทิ อี๊ด ฟลาย, กบ แท็กซี่, จั๊ก ชวิน, เอส กล้วยไทย, เจต Tragedy of Murder , ภีร์ Hard Boy ฯลฯ ที่มาเข้าร่วมชมการแสดงสดครั้งสำคัญนี้อย่างเนืองแน่น เมื่อประตูฮอลล์เปิดตามนัดหมาย ประเดิมความมันส์ด้วย 2 เพลงสากลสุดฮิต Snow Blind และ Paranoid ผลงานของวง Black Sabbath ที่ถือเป็นต้นแบบของชาวเฮฟวี่ เมทัล แนวเพลงยุคแรกที่เป็นแรงบันดาลใจ จุดเริ่มต้นในเส้นทางดนตรียุค70 ที่ โป่ง ก่อตั้งวงดนตรีครั้งแรกช่วงมัธยมในนาม วงนาอ้อน (Naon) ขึ้นมา ร่วมกับ สาย-จุมพฏ เลขะพันธุ์ และ มือเบสระดับพระกาฬอย่าง พิทักษ์ ศรีสังข์ เพื่อนเรียนในวัยเด็กจากชุมพร ที่ต่อมากลายเป็นมือเบสคู่ชีพที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาจนถึงปัจจุบัน

ช่วงถัดมาเป็นการแสดงสดของ โป่ง ในยุคของวง "อินเฟอร์โน่" วงลำดับที่ 2 ที่ โป่ง จับมือ พิทักษ์ ชักชวน ตุ้ม-วีระ โชติวิเชียร และ น้อย-เอกชัย วิมลแก้ว มาร่วมวง  ชื่อเสียงของ อินเฟอร์โน่ เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเล่นสดในคลื่นวิทยุชื่อดัง คึกคักยามเช้ากับวิฑูร วทัญญู จากนั้นพัฒนาสู่การเล่นอาชีพตามสถานบันเทิง โดยคืนนี้ โป่งคัด 5 เพลงสากล ที่เล่นประจำในยุคนั้นมาเรียกความมันส์เพิ่มขึ้นตามลำดับ อาทิ เพลงบรรเลง YYZ (Rush), War Pigs (Black Sabbath), Burn(Deep Purple), Rock and Roll (Led Zeppelin), Free Bird (Lynyrd Skynyrd) ก่อนปิดท้ายช่วงนี้อีก 1 บทเพลงจากแขกรับเชิญคนแรกที่ทำให้ โป่ง ปฐมพงษ์ เป็นที่รู้จักในช่วงยุควง ดิ โอฬาร โปรเจ็ค นั่นคือ พี่ซัน-มาโนช พุฒตาล กูรูด้านเพลงและผู้บริหารค่ายเพลง Mile Stone ที่มาเล่าเรื่องราวในช่วงวงโซดาสู่วงดิ โอฬาร พร้อมขับกล่อมแฟนเพลงด้วย Behind Blue Eyes ผลงานระดับตำนานจากวง The Who

โป่ง ปฐมพงศ์ เล่าว่า การที่ อินเฟอร์โน่ตระเวนเล่นตามสถานบันเทิงหลายที่ ทำให้ได้พบเพื่อนนักดนตรีมากขึ้น จนกระทั่ง โป่ง และพิทักษ์ ได้พบกับมือกีตาร์ระดับยอมฝีมืออย่าง โอ้-โอฬาร พรหมใจ ที่แต่งดนตรีเก็บไว้หลายเพลง พร้อมชักชวน 3 เพื่อนนักดนตรีที่รู้จักกันในแวดวงอย่าง อาร์ต-สมโชค นวลนิรันดร์ (Guitar), โม-ฉัตรพงษ์ นิยมไทย (Keyboard), บรรจง รัตนโสภณ (Drum/Vocal) มาร่วมทำวงร็อกที่เล่นเพลงไทยซึ่งถือเป็นวงแรก ๆ ของประเทศ โดยโป่งรับหน้าที่เขียนเนื้อเพลง แล้วนำไปเสนอค่ายเพลงแกรมมี่ เมื่อผลงานเข้าตา จึงได้ทำผลงานเป็นอัลบั้มเพลงครั้งแรก โดยมี พี่เต๋อ เรวัต พุทธินันท์ เป็นโปรดิวเซอร์ให้คนแรก และได้ พี่เล็ก-บุษบา ดาวเรือง ตั้งชื่อให้ว่าวงโซดา (Soda) มีเพลงที่ได้รับการยอมรับมากมาย

โดยในช่วงที่ 3 ของการแสดงในนาม "วงโซดา" โป่งและวงก็ได้คัดเอา 5 เพลงที่คุ้นหูของวงโซดามาบรรเลงเรียกบรรยากาศเก่า ๆ ให้ย้อนรำลึกกัน ได้แก่ กีตาร์พาฝัน, สิ่งที่ฉันเห็น, ไปเธค, เด็กซิ่ง และ ปลายคลื่น ก่อนปิดท้ายโชว์ด้วยการเซอร์ไพร์สแฟนเพลงเรียกเสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์ เมื่อมีร่างเล็กๆของหญิงสาว เดินสะพายกีตาร์ออกมาหน้าเวที แสงจากในฮอล์ส่องให้เห็นใบหน้าของ "แม่ลินหรือย่าลิน" เน็ตไอดอลวัยเก๋าของชาวโซเชี่ยล ที่รู้จักกันจากเพจ Malinda Herman และเพจ หญิงชรากับหมาน้อย และเธอคนนี้ยังเป็น "พี่ลิน" พี่สาวที่รักและเคารพของโป่ง และสมาชิกวงโซดาทุกคน หนึ่งในบุคคลสำคัญของช่วงหนึ่งในชีวิต ที่เป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขและเป็นผู้ที่คอยสร้างพลังใจให้แก่กันมาตลอด "แม่ลิน" ดีดกีตาร์โปร่งโชว์เพลงฮิตประจำตัวที่ทำให้ชาวโซเชี่ยลรู้จักทั่วบ้านทั่วเมืองคือ Why Do I Love You So ของ Johnny Tillotson เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือสนั่นฮอลล์  ก่อนโชว์จะถูกโยนเข้าสู่ช่วงของการแสดงสดที่เริ่มทวีความหนักแน่นและความมันส์มากขึ้น นั่นคือช่วงของวง "ดิ โอฬาร โปรเจ็ค" (THE OLARN PROJECT)

ทันทีที่เข้าสู่ช่วงแสดงสดของวง "ดิ โอฬาร โปรเจ็ค" บรรยากาศในฮอลล์คึกคักมากขึ้น แฟนเพลงสายร็อคแฮร์แบนด์โยกหัวกันไม่หยุด ประเดิมความมันส์กับเพลง "คน" และ "ไฟปรารถนา" ตามต่อด้วยเสียงกรี๊ดกระหึ่มฮอลล์เมื่อเสียงกีตาร์กีตาร์ถูกบรรเลงไล่เรียงออกมาเป็นท่วงทำนองอินโทรของเพลงสุดฮิตอมตะอย่าง "อย่าหยุดยั้ง" ตามด้วยเสียงของแฟนเพลงกระหึ่มฮอลล์ที่ร่วมร้องไปกับ โป่ง ตลอดทั้งเพลง ก่อนตามต่อด้วยอีกหนึ่งเพลงฮิตอย่าง แทนความห่วงใย ปิดท้ายด้วยเพลงบรรเลง พลังและความตั้งใจ ที่ยังคง หนักแน่น พลิ้วไหว ให้เคลิบเคลิ้ม จากนั้นเข้าสู่ช่วงคนสำคัญของชีวิต นั่นคือการขึ้นเวทีของ "น้องแองจี้-ฐิติชา สมบัติพิบูลย์" ลูกสาวแก้วตาดวงใจของ "โป่ง ปฐมพงศ์" ศิลปิลไอดอลชื่อดังแห่งค่าย E29 Music Identities พร้อมโชว์พลังเสียงร้องแบบสด ๆ ในเพลง Someone Like You ผลงานศิลปินชื่อก้องโลก Adele ให้แฟนเพลงได้ชื่นชมพร้อมรับพลังจากเสียงปรบมือสนั่นฮอลล์ เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ แถมน้องแองจี้ ยังทิ้งท้ายหยอดคำหวาน ๆ ให้กับพ่อว่า "ถึงหนูจะร้องแร็พ แต่หนูก็เป็นร็อคเพื่อพ่อได้ค่ะ"

จากนั้นความมันส์ของการแสดงก็แรงและร็อกขึ้นด้วยการอุ่นเครื่องครั้งสุดท้ายกับ 3 เพลงฮิตของ The Sun อย่าง ง่ายเกินไป, ทำดีที่สุดแล้ว และ แวมไพร์  ตามมาด้วยวีทีอาร์ของ น้าทิวา-ทิวา สาระจูฑะ บก.นิตยสารสีสันผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรีร็อกมานานกว่า 40 ปี และเป็นบุคคลที่นักดนตรีทุกคนให้ความนับถือ น้าทิวามาบอกเล่าเรื่องราวที่มาก่อนการเป็นวงร็อกสตาร์ชื่อดังแห่งยุค 80 และการตั้งชื่อให้กับวง หินเหล็กไฟ จากนั้นความเดือดพล่านภายในฮอลล์ก็ระเบิดขึ้นทันทีตั้งแต่เริ่มต้นเมโลดี้ตัวแรกของอินโทรเพลง นางแมว ที่เรียกแฟนเพลงแทบทุกคนให้ลุกขึ้นโขยกความมันส์กันทั่วทั้งฮอลล์ ตามมาด้วยการขนเพลงฮิตมาประเคนให้ชาวร็อกได้มันส์กันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น พลังรัก, หลงกล, ยอม, คิดไปเอง, สู้, หวาดระแวง, ศรัทธา ก่อนปิดท้ายความมันส์ด้วยสองบทเพลง "ค้างคาวไฟ" ที่เชิญ "ขุนทอง อสุนีย์" ผู้เขียนเพลงนี้มาร่วมแจม เล่นเอาชาวร็อคนั่งไม่ติด เรียกว่าเก้าอี้ในฮอลล์แทบถูกทิ้งร้าง เพราะแฟนเพลงทั้งฮอลล์ลุกขึ้นโยกร่วมร้องร่วมมันส์กันทุกคน ก่อนปิดท้ายด้วยอังกอร์กับ Going Down บทเพลงที่รวม 7 สุดยอดนักกีตาร์มือพระกาฬของเมืองไทยที่เคยร่วมเป็นสมาชิกวงดนตรีทุกยุคของ "โป่ง ปฐมพงศ์" มาโชว์ร่วมกันบนเวที ได้แก่ ป๊อบ เดอะซัน- จักรรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย,โอ้-โอฬาร พรหมใจ, ตุ้ม-วีระ โชติวิเชียร, โต-นำพล รักษาพงษ์ (โต),น้อย, เอกชัย วิมลแก้ว, สาย-มพฏ เลขะพันธุ์, อาร์ต-สมโชค นวลนิรันดร์  และอีก 1 มือกีตาร์รับเชิญอย่าง หมู คาไลโดสโคป ขึ้นมาร่วมแจม

งานนี้เรียกเสียงซู้ดปากจากคอเพลงชาวร็อกได้อักโขโดยเฉพาะมือกีตาร์ เรียกได้ว่าเป็นการปิดคอนเสิร์ต "Pong 47 ปี Rock Never Dies" ได้อย่างสมบูรณ์และครบทุกอรรถรสทางดนตรี สร้างความอิ่มเอมใจให้แฟนเพลงชาวร็อกของโป่ง ที่เข้าร่วมชมความมันส์กันตั้งแต่นาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้ายกันเลยทีเดียว

"โป่ง ปฐมพงศ์" กล่าวทิ้งท้ายหลังจบคอนเสิร์ต "ทุกท่านคงได้รู้จักตัวตนของผมในทุกช่วงเวลาตลอด 47 ปีที่ผ่านมา คงได้เห็นว่า ผมผ่านอะไรมาบ้าง กว่าจะประความสำเร็จและอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ ผมไม่ได้สุดยอดอะไร บังเอิญเรามีเพื่อน ๆ นักดนตรีที่เก่งอยู่ข้างตัวเรา เพลงของเราจึงออกมาดี มีแฟนเพลงชื่นชอบ ผมขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตตลอดเส้นทางดนตรี ขอบคุณคลาสซี่ เร็คคอร์ด (Classy Records) ที่เป็นคนจุดประกายและลงมือทำโปรเจ็คต์นี้ขึ้นมา ทำให้ผมและเพื่อนๆได้มารวมตัวกันแบบนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจเป็นครั้งเดียวในชีวิตของผม เพราะพวกเราก็อายุมากกันแล้ว ขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่เป็นพลังใจให้กันตลอดมา ขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในวันนี้ ขอขอบคุณจากใจจริงๆ ครับ"

 

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy