ครั้งแรกในไทย! "ศูนย์ฯ สิริกิติ์" เปิดพื้นที่สานฝันเด็กไทย สร้างประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียน

"ศูนย์ฯ สิริกิติ์" เปิดพื้นที่สานฝันเด็กไทย สร้างประสบการณ์เรียนรู้นอกห้องเรียน ครั้งแรกในไทย กับโครงการ "จุดประกายอนาคตเทคโนโลยีอวกาศ"

เพราะการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ไม่ควรหยุดอยู่แค่ในห้องเรียน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมผลักดันการศึกษาอย่างไร้ขีดจำกัด เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้มาใช้ชีวิต และสรรสร้างความคิดสร้างสรรค์ในโครงการ "จุดประกายอนาคตเทคโนโลยีอวกาศ" (Empowering Thai Students to Reach for the Stars : Space Day 2024 Thailand) สร้างประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียนด้านอวกาศ และวิศวกรรม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โครงการ "จุดประกายอนาคตเทคโนโลยีอวกาศ" จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการนำกิจกรรมนอกห้องเรียนด้านวิทยาศาสตร์ และอวกาศมาต่อยอด เพื่อสร้างทักษะ และช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ ตระหนัก และให้ความสำคัญด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอวกาศ งานนี้ทำเอาเด็ก ๆ ที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้สนุก และตื่นเต้นกันมาก เพราะได้รับเกียรติจากอดีตนักบินอวกาศ NASA ชาวอเมริกัน และผู้พันโทในกองทัพสหรัฐอเมริกา คุณชาร์ลส์ "แซม" เกอมาร์ (Charles "Sam" Gemar) หรือที่เด็ก ๆ เรียกว่า "คุณแซม" บินตรงมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานในด้านการบินอวกาศ NASA และเคยปฎิบัติภารกิจในการบินกระสวยอวกาศมาแล้ว 3 ครั้ง (STS-38, STS-48 และ STS-62) โคจรรอบโลกมาแล้ว 385 รอบ และมีชั่วโมงบินในอวกาศมากกว่า 581 ชั่วโมง

คุณสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เผยว่า "ศูนย์ฯ สิริกิติ์ รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการดี ๆ ที่สนับสนุนให้เด็กไทยได้ออกมาสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน อย่างที่ทุกคนทราบ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นมากกว่า ศูนย์การประชุม พื้นที่ของเราเป็นมากกว่าพื้นที่จัดงาน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้ชีวิต ทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ ด้วยพื้นที่กว้างขวาง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เราหวังว่าเด็ก ๆ จะมีความสุข เกิดแรงบันดาลใจ และเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่"

ภายในงานนอกจากเด็ก ๆ จะได้ร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Work Shop "Build Your Space Shuttle" หรือกิจกรรม "Train Like an Astronaut" ร่วมกับคุณแซมแล้ว ยังได้มีโอกาสพูดคุย และร่วมรับฟังประสบการณ์ตรงในการปฏิบัติหน้าที่ในห้วงอวกาศ ซึ่งคุณแซมได้ให้มุมมอง และแง่คิดกับเด็ก ๆ ไว้ได้น่าสนใจ และยังสามารถปรับใช้ได้กับทุก ๆ สถานการณ์อีกด้วย

"น้องนิวนิว-นันท์นภัส เจริญทั้งวิทยา" และ "น้องวาวา-พิมพ์ชนก" เปรื่องวิทยาการ เยาวชนจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ที่เข้าร่วมโครงการเล่าด้วยรอยยิ้มสดใสว่า "พวกหนูรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ ที่ได้เจอคุณแซม อดีตนักบินอวกาศตัวจริง รู้สึกว้าวมาก คุณแซมใจดี เปิดโอกาสให้เราได้ถามคำถามที่เราอยากรู้เกี่ยวกับการทำงานบนอวกาศ พวกเราสนุกกันมาก เพราะมีกิจกรรมเกี่ยวกับดาราศาสตร์และอวกาศเยอะมาก ได้สัมผัสอุกกาบาตของจริง ทดลองพับจรวด รวมถึงคำนวณดิถีดวงจันทร์ (Moon Phase Calculator) ซึ่งทำให้พวกเราได้เรียนรู้เรื่อง Soft Skill แล้วยังได้ฝึกทำงานเป็นทีม (Team Work) ด้วยค่ะ ในอนาคตก็อยากให้มีโครงการดี ๆ แบบนี้ และมีพื้นที่ที่สะดวกสบายกว้างขวางแบบนี้ให้พวกเราได้สนุกกับการเรียนนอกห้องเรียนอีกเยอะ ๆ ค่ะ"

ด้าน คุณแซม กล่าวว่า "แน่นอนว่าอาชีพในฝันของผมตั้งแต่ยังเป็นเด็ก นั่นก็คือการเป็นนักบินอวกาศของสหรัฐอเมริกา และมีโอกาสได้บินขึ้นไปในอวกาศจริง ๆ อุปสรรคใหญ่ที่สุดที่ผมเผชิญตลอดเส้นทางอาชีพนักบินอวกาศ คือการสะสมวุฒิการศึกษาประสบการณ์การทำงาน ผมย้ำอีกครั้งว่าไม่มีอะไรง่ายเลยในการเป็น 'นักบินอวกาศ'"

คุณแซมยังกล่าวถึงศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในฐานะพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจว่า "ถึงแม้ผมจะเดินทางมาแล้วทั่วโลก และเดินทางมาแล้ว 15 ประเทศ ในปี 2023 ที่ผ่านมา ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ถือเป็นศูนย์การประชุมที่ผมประทับใจที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาทั่วโลก"

"ผมอดที่จะประทับใจไม่ได้กับสถาปัตยกรรม การออกแบบ การผสมผสานระหว่างพื้นที่ จัดประชุม และพื้นที่รีเทล รวมถึงผู้คนที่อยู่นอกศูนย์การประชุม ซึ่งดำเนินชีวิตประจำวันของพวกเขา มันเป็นสิ่งที่พิเศษไม่เหมือนใคร ผมไม่เคยเห็นการผสมผสานแบบนี้ในที่อื่นเลย ผมรู้สึกสนุกที่ได้เห็น เมื่อผมได้มองไปรอบ ๆ ศูนย์การประชุมที่แวดล้อมด้วยศิลปะ และผู้คน นี่เป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรม ผู้คน และสัมผัสมิตรภาพของวัฒนธรรม และของคนที่นี่เช่นกัน ทั้งนี้ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ถือเป็นศูนย์การประชุมแห่งแรงบันดาลใจ และล้ำยุคสมัย" คุณแซม ทิ้งท้าย

การสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองควบคู่ไปกับการหาประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเดินตามความฝันได้สำเร็จ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ พร้อมเปิดพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยได้เรียนรู้ และสร้างความฝันสู่อนาคตไปด้วยกัน