เมื่อองค์กรต้องรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อน "AI" จะเข้าไปมีบทบาทอย่างไร?

"เอบีม คอนซัลติ้ง" แนะ "AI Sourcing" แก้ปัญหาการจัดการองค์กรขั้นสูง และปัญหาทางสังคมด้วยการผสานความรู้ทางธุรกิจเข้ากับเทคโนโลยี AI

ในปัจจุบัน ทั่วโลกเผชิญปัญหาแรงงานเนื่องจากจำนวนประชากรลดลงและการเพิ่มขึ้นของสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ทุกองค์กรจำเป็นต้องตอบสนองต่อความท้าทายทางสังคมและอุตสาหกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI จึงได้รับการพัฒนาและถูกนำมาใช้ในบริบทต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดให้ทันท่วงที อย่างไรก็ตาม การแทนที่งานของมนุษย์ด้วย AI เป็นการใช้ศักยภาพของ AI เพียงเศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น และอาจไม่ได้ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความท้าทายทางสังคมได้ นั่นเพราะจริงๆ แล้ว AI สามารถจัดการ รวบรวม วิเคราะห์ ประมวลผล และแสดงภาพข้อมูลจำนวนมหาศาล ส่งผลให้สามารถทำงานที่ซับซ้อนซึ่งมนุษย์อาจไม่เคยเอื้อมไปถึงจุดนั้นมาก่อนได้

ข้อมูลล่าสุดจาก AI Thailand มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2027 การใช้งาน AI จะสามารถสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทยได้มากถึง 48,000 ล้านบาท ทั้งยังจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจไทยประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลก จากสถานการณ์ดังกล่าว

เอบีม คอนซัลติ้ง ได้เล็งเห็นถึงการใช้ AI ให้เป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่สนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจและการสร้างมูลค่าแก่องค์กร จึงได้เปิดตัวบริการ "AI Sourcing" บริการใหม่ที่พร้อมสนับสนุนการจัดการและสังคมที่ยั่งยืน โดยการนำ AI มาจัดการกับงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความรู้เฉพาะทางในการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งก่อนหน้านี้จัดการได้ยากด้วยกำลังคนเพียงอย่างเดียว อาทิ เรื่องของการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (Human Capital Management) หรือห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน (Sustainable Supply Chain) โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการเติบโตขององค์กรและสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทาง

โดยบริการ AI Sourcing เป็นการใช้ "ABeam AI Platform" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการที่รวบรวมวิธีการแก้ปัญหาและอัลกอริทึมการวิเคราะห์ซึ่งได้มาจากฐานข้อมูลความรู้ที่มากมายของ เอบีม คอนซัลติ้ง แพลตฟอร์มนี้จะถูกใช้เพื่อระบุปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขในการจัดการธุรกิจ ไปจนถึงการออกแบบและพัฒนาบริการ รวมไปถึงโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ พร้อมทั้งสร้างกระบวนการปฏิบัติงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยให้สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริการ AI Sourcing นี้จะเปิดเผยผลกระทบโดยรวมและสาเหตุของปัญหาในองค์กร โดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญและขนาดของผลกระทบ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ บริการจะสร้างแพลตฟอร์มการวิเคราะห์อย่างรวดเร็วโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและ Machine Learning จากนั้นจึงออกแบบและพัฒนาบริการ AI ที่เหมาะสมที่สุดโดยผสมผสานอัลกอริทึม เช่น Generative AI การหาค่าเหมาะสมที่สุดเชิงคณิตศาสตร์ (Mathematical Optimization) และการคาดการณ์ความต้องการ (Demand Forecasting) รวมถึงโมดูลที่รวบรวมความรู้ทางธุรกิจที่หลากหลายและความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหา ทั้งนี้ AI Sourcing ยังรองรับการนำ AI มาช่วยหาวิธีการในการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ จึงมีส่วนช่วยในการส่งเสริมวาระทางธุรกิจที่สำคัญและการแก้ไขความท้าทายที่สังคมและธุรกิจกำลังเผชิญอยู่

ทั้งนี้ เอบีม คอนซัลติ้ง ได้ยกตัวอย่าง กรณีการใช้งานสำหรับ "AI Sourcing" ไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ

1. การจัดการทรัพยากรมนุษย์ (Human capital management) : เราสามารถสร้างแพลตฟอร์มติดตามการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการสร้างระบบที่รวบรวมและติดตาม Key Performance Indicator (KPI) และ Key Goal Indicators (KGIs) ที่ถูกกำหนดขึ้นตามกลยุทธ์ต่าง ๆ ขององค์กร ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการส่งเสริมการจัดการทรัพยากรมนุษย์มาทำงานร่วมกับ AI ด้วยการบูรณาการข้อมูลทั้งการเชื่อมโยง วิเคราะห์ และการแสดงภาพข้อมูลทรัพยากรบุคคลที่หลากหลายจากมุมมองที่สอดคล้องเชิงกลยุทธ์ดังกล่าว จากข้อมูลดังกล่าว องค์กรก็จะสามารถวัดประสิทธิภาพของกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถประเมินและวางแผนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การจัดซื้ออย่างยั่งยืน (Sustainable procurement) : การจัดซื้อด้วย AI โดยใช้การคาดการณ์ความต้องการ การวางแผนการผลิต การจัดซื้อ และการจัดการทางการเงิน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนบุคลากรเฉพาะทางและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนเกณฑ์การจัดซื้อที่คลุมเครือ ซึ่งมักต้องพึ่งพาประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ให้กลายเป็นการวัดเชิงปริมาณที่เป็นรูปธรรมได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น คุณสุปรีดา จิรวงศ์ศรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) ยังเผยถึงการนำ AI มาใช้งานในองค์กรเพื่อตอบสนองกับงานของลูกค้าในปัจจุบัน ไว้อย่างน่าสนใจ โดยกล่าวว่า ธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) มีการนำ AI เข้ามาบูรณาการกับการดำเนินงานมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ เป็นต้น เอบีม คอนซัลติ้ง ในฐานะพันธมิตรด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันชั้นนำ เรามีความเชี่ยวชาญและพร้อมนำเสนอโซลูชัน AI แก่ลูกค้า อาทิ

1) การเริ่มศึกษาการทำงานของ AI ใน Business Technology Platform (BTP) ต่างๆ จากโซลูชัน SAP เพื่อช่วยลดการทำงานหลักที่ต้องทำเป็นประจำ (Routine work) ในกระบวนการสั่งซื้อของลูกค้า ทำให้ลูกค้าสามารถมุ่งเน้นไปยังกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าได้ ซึ่งลูกค้ายังสามารถใช้โซลูชันนี้ร่วมกับ Cloud Platform Enterprise Agreement (CPEA) ที่เป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน RISE with SAP ได้อีกด้วย

2) การใช้ Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI เพื่อสนับสนุนงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการทางโทรศัพท์ โดยให้ข้อมูลที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ถูกโทรเข้ามาสอบถาม

3) การพัฒนาโมเดล AI โดยใช้ข้อมูลจากระบบ ERP เพื่อช่วยให้ลูกค้าคาดการณ์ความล่าช้าในการจัดส่งสินค้าของซัพพลายเออร์ ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนตารางการผลิต การปรับแผนการซ่อมบำรุงเครื่องจักร การเปลี่ยนซัพพลายเออร์ หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนวัตถุดิบในการผลิต

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ที่องค์กรควรต้องรีบปรับตัว และนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการดำเนินการบริหารงาน เพื่อให้เป็น Smart AI องค์กรแห่งอนาคตที่พร้อมรองรับทุกการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในทุกวัน