บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT พร้อมดำเนินการส่งมอบออเดอร์ถุงมือยางธรรมชาติที่ผลิตจากน้ำยาง EUDR จากบริษัทแม่ หรือ STA แก่ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ภายในเดือนสิงหาคม 2567 นี้ ตอกย้ำความพร้อมในการรองรับมาตรการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของยางและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางธรรมชาติจากยุโรปที่จะเริ่มบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้และจากภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกในอนาคต
นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และทีมผู้บริหาร บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์อันดับหนึ่งของไทยและรายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าเตรียมส่งมอบถุงมือยางภายใต้ข้อกำหนด EUDR แก่ลูกค้าที่มีออเดอร์การสั่งซื้อในช่วงเดือนกรกฎาคม และได้ทำการส่งออกในเดือนสิงหาคม 2567 แก่ลูกค้าในประเทศกรีซ หลังจากที่สหภาพยุโรปเตรียมบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EU Deforestation Regulation (EUDR) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ ส่งผลทำให้การส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากยางธรรมชาติไปยังทวีปยุโรป ต้องผ่านการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) แหล่งที่มาของผลผลิต เพื่อแสดงว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่าและไม่ได้อยู่ในพื้นที่บุกรุกป่า
ปัจจุบันบริษัทฯ มีความพร้อมในการส่งออกถุงมือยาง EUDR ทุกชนิด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้เตรียมมาตรการรองรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีความได้เปรียบในด้านห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ โดยมีการรับวัตถุดิบน้ำยางธรรมชาติ EUDR ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตถุงมือยางธรรมชาติ จาก บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ที่ได้มีการพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลแปลงที่ดินในการปลูกยางจากเกษตรกรและผู้ค้ายาง ไปจนถึงระบบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของยางพาราได้ 100% ผ่านแอปพลิเคชัน "Sri Trang Friends" (ศรีตรังเพื่อนชาวสวน) พร้อมทั้งเปิดตัว "ยางมีพิกัด (GPS)" ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาได้ เพื่อแสดงความพร้อมตอบรับข้อกำหนด EUDR จากยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ ที่ต้องการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของยางพาราในอนาคต
"เรามีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในการผลิตและเพื่อส่งออกถุงมือยาง EUDR ไปยังกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปหรือประเทศคู่ค้าของยุโรป โดยใช้ข้อได้เปรียบจากการที่กลุ่มบริษัทศรีตรังมีห่วงโซ่ในกระบวนการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทำให้เราสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งสามารถปรับการผลิตให้สอดรับกับกฎข้อบังคับของกลุ่มสหภาพยุโรปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เรามุ่งเน้นการดำเนินงานตามนโยบายที่ให้ความสำคัญด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมทั้งจุดยืนในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและโปร่งใสและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อรักษามาตรฐานและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมถุงมือยางระดับโลก เพื่อส่งมอบการ "ปกป้องทุกสัมผัส ด้วยความห่วงใย" สู่ทุกชีวิตทั่วโลก" นางสาวจริญญา กล่าว